Interview : Aspects Of Street Artist ‘Rukkit’ skip to Main Content

Interview : Aspects Of Street Artist ‘Rukkit’

รักกิจ ควรหาเวชอีกหนึ่งสตรีทอาร์ทติสต์ชาวไทย ที่มีผลงานศิลปะที่โดดเด่นเต็มไปด้วยเทคนิคและรูปแบบเฉพาะตัว ซึ่งในปี 2016 ที่ผ่านมานั้น เขาก็ได้ตระเวนไปโชว์ผลงานในหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็บอกได้เลยว่าปีที่ผ่านมา เป็นปีที่เขาทำงานมาอย่างมากมายหลากหลาย รวมไปถึงแง่คิดและมุมมองต่างๆ ที่เขาจะมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้พวกเราได้ฟังกัน

img_1154-lowres2

SB >> อัพเดทชีวิตการทำงานศิลปะในช่วงที่ผ่านมา

RK >> ช่วงนี้เราก็กำลังจะแต่งงานล่ะ เราก็รับงานทุกอย่างที่เราพอจะทำได้ ส่วนเรื่องงานสตรีทอาร์ทออกไปทำข้างนอก ช่วงนี้ก็อาจจะต้องเป็นเคสที่จำเป็นจริงๆ อย่างเพื่อนศิลปินจากต่างประเทศมาหรือเพื่อนๆ พี่ๆ ชวนไปทำ ซึ่งถ้าว่างก็จะไปทำ แล้วก็ออกไปคุยงาน พบลูกค้า คุยเกี่ยวกับเรื่องงานกัน

SB >> เท่าที่ผ่านมา ครั้งแรกๆ ที่คุณได้เริ่มทำงานสตรีทอาร์ทมา จนมาถึงตอนนี้ประมานกี่ปี มันมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทิศทางไหนบ้าง

RK >> ประมาณ 5 ปีเเล้วนะ คือเหมือนช่วงแรกที่เราทำงานสตรีท เราไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้ ยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่พอเราเริ่มทำมาเรื่อยๆ เรารู้สึกแฮปปี้ รู้สึกภูมิใจ พอจบงานสเกลใหญ่ๆ แล้วพอเราได้เห็นงานของเราบนตึกตามที่ต่างๆ ที่ไปทำ มันเหมือนเกิดแรงผลักดันอะไรในบางอย่าง มันเหมือนเป็นความท้าทายว่าเราสามารถทำผลงานชิ้นใหญ่ๆ ขึ้นมาได้มั้ย เพราะเราเชื่อว่าคนที่มาจากงานคอมพิวเตอร์เหมือนเรา จะกลัวเรื่องสเกลจะผิดเพี้ยน เเต่พอเราทำไปเรื่อยๆ ตั้งใจเเละฝึกฝน เราก็เริ่มจับทิศทางได้ ควบคุมมันได้

SB >> จนถึงตอนนี้ คุณก็ยังยึดคาแรคเตอร์เกี่ยวกับสัตว์มาโดยตลอด อะไรคือเหตุผลที่คุณชอบในคาแรคเตอร์เกี่ยวกับสัตว์

RK >> มันมีหลายประเด็นเหมือนกันนะที่เราใช้สัตว์ เเต่หลักๆ เลยการวาดรูปสัตว์มันจะง่ายกว่า แล้วพอเราสร้างรูปแบบสัตว์ขึ้นมาไปอยู่บนกำแพงในเมืองต่างๆ เราเห็นแล้วรู้สึกดี อย่างน้อยก็มีธรรมชาติอยู่ในเมือง

13653106_545038675704278_2209524517362110480_o

203

SB >> ผลงานของคุณก็จะมีการทำในแบบฟรีแฮนด์และการใช้บล็อก คือเรียกได้ว่ามันคือการผสมผสาน เเล้วคุณมีวิธีหาความสมดุลให้กับงานยังไง

RK >> เราก็ทำไปแก้ไป เพราะว่าเราไม่มีพื้นฐาน เราก็พยายามทำให้มันลงตัวที่สุด บางทีคู่สีเพี้ยนไปบ้าง เราก็พยายามหาวิธีแก้มันให้ได้ ตอนนี้เราก็มีงานฟรีแฮนด์เข้ามา เพราะแรกๆ เราจะใช้บล็อกพ่น ซึ่งมันใช้เวลานานมาก แล้วพวกตัวบล็อกเวลาใช้นานๆ บ่อยๆ มันก็จะเยิน มีจุดต่างๆ ที่ต้องแก้ไขตลอด ซึ่งถ้าเราทำงานสเปรย์ มันก็ต้องฝึกฟรีแฮนด์ให้เป็นบ้างนะ

SB >> เเพทเทิร์นต่างๆ ที่อยู่ภายในตัวงานของคุณ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นในลักษณะของงานดีไซน์ งานกราฟฟิก คุณชอบและหลงใหลอะไรในสไตล์นี้

RK >> เพราะว่าเราทำกราฟฟิกดีไซน์มาก่อน เราจะคลุกคลีกับแพทเทิร์นต่างๆ พวกนี้ตลอด งานเรามันก็จะเป็นกราฟฟิกมาก ไม่ได้เป็นกราฟฟิตี้หรือไฟน์อาร์ทเท่าไหร่ คือเราจะทำในแบบที่ตัวเองถนัด ทำให้สนุกและมีความสุขกับมัน

SB >> เเล้วอย่างผลงานชิ้นใหญ่ๆ ที่คุณเคยทำ การขึ้นแพทเทิร์นต่างๆ หรือการทำบล็อกขึ้นมากับสเกลกำแพงที่สูงและใหญ่ คุณมีวิธีจัดการอย่างไร

RK >> คือทุกกำแพงที่เราทำ เราต้องรู้ขนาดก่อนเลย เพราะต้องเตรียมบล็อกสำหรับการทำสเกล พวกงานโค้ง ความหนา ความยาว หรือเส้นต่างๆ ถ้าเรารู้ขนาดแล้ว ตัวบล็อคมันจะเป็นสเกล คือถ้าเราสตาร์ทจากจมูกหรือตาก่อน ที่เหลือมันก็จะไล่ตามสเก็ตที่เราวางเอาไว้ ยกเว้นเราไปสตาร์ทผิดจุด งานมันก็จะเพี้ยน แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันก็จะพอเข้าใจ แต่ส่วนใหญ่เราก็ยังค่อยไม่พลาดเท่าไหร่

4

12

SB >> ช่วยเล่าบรรยากาศคร่าวๆ ตอนไปพ่นงานที่เมืองนอกให้ได้ฟังหน่อย 

RK >> ทุกกำแพงก็จะมีความตื่นเต้นของมัน อย่างอินเดียเขาก็ไม่มีรถเครนให้เรา เราก็ต้องใช้นั่งร้าน นั่งร้านมันก็ยากต่อการเทียบสเกลเหมือนกัน แต่พอไปประเทศที่มีรถเครนก็จะเจอปัญหาเรื่องกำแพงสูง ขึ้นไปแล้วมีความกลัว แต่ทำไปเรื่อยๆ ก็พอปรับตัวได้ แต่ที่ดูไบเขาเตรียมรถเครนที่ไม่พอดีกับกำแพง รถเครนมันเตี้ยไป กำแพงมันสูงมาก เราอยู่สูงสุดของรถเครนเลย ก็ค่อนข้างอันตราย ความไม่พร้อมของแต่ละที่ก็เป็นปัญหาที่เราคอยแก้ไขหน้างานไป เเต่เราก็ได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยนะ อย่างความลำบากที่เราไปเจอมา พอเราทำงานสำเร็จแล้วมันจะแฮปปี้มากๆ เเล้วพอไปที่นั่นมันก็ได้เจอเพื่อนเจอมิตรภาพ เหมือนเราไปเล่นกับเพื่อน คือเพื่อนเวลาเล่นกันบ่อยๆ มันก็จะสนิท แต่ถ้าเพื่อนคุยผ่านคอมพิวเตอหรือน้องๆ มาคุยด้วยมันก็ระดับนึง แต่พอเวลาเราได้ออกไปทำกับเพื่อนๆ มีกิจกรรมร่วมกัน ความสนิทมันเลยดูมากกว่า

SB >> ทางศิลปินเมืองนอก เขามองศิลปินไทยหรือผลงานในเมืองไทยเป็นยังไงบ้าง

RK >> เขาไม่ได้มองภาพรวมขนาดนั้น ว่าเราคือตัวแทนประเทศอะไรขนาดนั้น เขามองเราเป็น Rukkit ก็คือ Rukkit แต่เขาก็มีถามว่าทำงานเเบบนี้มันเลี้ยงชีพได้หรือเปล่า คือบางคนก็ไม่ได้เป็นสตรีทอาร์ทติสต์อย่างเดียว เขาก็มีทำอย่างอื่นด้วย ส่วนใหญ่เขาจะคุยเรื่องการใช้ชีวิตมากกว่า เราก็อธิบายให้เขาฟังว่าสตรีทอาร์ทในเมืองไทยมันก็ยังใหม่อยู่ ยังไม่ล้นตลาดจนไม่มีที่ยืนขนาดนั้น มันมีช่องทางมีโอกาสค่อนข้างเยอะที่เปิดโอกาสให้อาชีพนี้มีรายได้

SB >> ในหลา่ยๆ ผลงานที่คุณออกไปทำข้างนอกมา คุณมองเห็นความเปลี่ยนเเปลงหรือการพัฒนาเป็นอย่างไรบ้าง

RK >> เราก็มองเห็นการพัฒนาอยู่ตลอดนะ ซึ่งทุกคนเขาก็จะมีลายเซ็นต์ของตัวเองชัดเจน อย่างตอนเราคุยกับเพื่อนที่เกาหลี เขาก็บอกว่าสกิลไม่สำคัญ แต่การที่เราค้นเจออะไรในบางอย่างมันสำคัญกว่า เหมือนการเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง อย่างเขามองงานเรา เขาสนใจเรื่อง process ต่างๆ ของเรา ที่เราเอามาทำมากกว่า แต่ถ้าใครมีสกิลในการทำงานที่ดีมันก็ดีแหละ

222

78

SB >> เเล้วอะไรคือความหมายหลักๆ ของผลงานคุณ ที่ต้องการสื่อสารออกมามากที่สุด

RK >> จุดสตาร์ทแรกของเรามันคือความท้าทายในตัวเองมากกว่านะ ว่าจะทำได้มั้ย แล้วก็ได้มิตรภาพ ซึ่งการทำงานสตรีทมันก็ต้องมีโจทย์ให้เรามาเรื่อยๆ เพราะแต่ละที่หรือกำแพงก็ไม่เหมือนกัน ส่วนความหมายในงานของเราจริงๆ เราไม่ได้อิงกับสังคมอะไรขนาดนั้น แค่เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนหรือทำอะไรแย่ๆ ให้ เราว่านี่ก็คือความรับผิดชอบต่อสังคมเเล้วเหมือนกัน

SB >> วงการสตรีทอาร์ทและกราฟฟิตี้ในบ้านเรา ตอนนี้คุณเห็นอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงขึ้นบ้าง

RK >> เราว่ามีคนสนใจมากขึ้น มีคนกล้าทำมากขึ้น เราว่ามันก็เป็นสิ่งดีนะ เพราะการที่เรามาจากพื้นฐานที่แตกต่างกันมันก็จะได้ผลงานที่หลากหลายดี

SB >> Rukkit ในปี 2017 กับเป้าหมายในอนาคต 

RK >> คือที่ผ่านมาเรามีงานตัวเองน้อยเหมือนกันนะ พอมันมีงานคอมเมอเชียลเข้ามามันมี timeline เข้ามา มันเลยไม่มีเวลาได้ทบทวนตัวเองเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็เริ่มนิ่งขึ้นแต่ทางเทคนิคในงานก็มีความหลากหลายมากขึ้น ได้ทำงาน sculpture ทำงานไฟนีออน ที่แตกต่างไปจากงานสเปรย์ ซึ่งปี 2017 เราก็ยังอยากทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมมากขึ้น

555

10842244_346625932212221_5045554136599893834_o

img_0964-lowres-1

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

Thank Interview :  ‘Rukkit’

Credit Foto Artwork : ‘Rukkit’

Credit Foto Portrait : ‘Mc Suppha-riksh Phattrasitthichoke’

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

 

 

 

Back To Top